ผู้ค้าสลากฯ เสรี จี้กองสลากฯ ชะลอรื้อระบบสลากซื้อ-จอง

ผู้ค้าสลากฯ เสรี จี้กองสลากฯ ชะลอรื้อระบบสลากซื้อ-จอง

ผู้ค้าสลากฯเสรี รวมตัวชุมนุมหน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จี้ชะลอคำสั่ง รื้อระบบ สลากซื้อ-จอง ที่จะเปิดให้ลงทะเบียนใหม่ 1 มกราคม ปีหน้า ก่อนหน้านี้ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ประกาศรื้อระบบสั่งซื้อและจองล่วงหน้าอย่างเป็นทางการ เพื่อแก้ปัญหาสลากเกินราคา ทั้งในระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว โดยคณะกรรมการสลากฯ ได้มีมติกำหนดโรดแม็พ 

ในการดำเนินการแก้ไขปัญหา 3 แนวทาง ประกอบด้วย

1.การขยายจุดจำหน่ายโครงการ “สลาก 80”

2. การเปิดรับสมัครลงทะเบียนในระบบซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 200,000 ราย

3. การจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์หรือแพลตฟอร์มออนไลน์

ด้วยเหตุนี้ส่งผลให้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา อ้างอิงข้อมูลจาก ห้องข่าวภาคเที่ยง ของสถานีโทรทัศน์ ช่อง 7 สี ระบุ ได้มีกลุ่มผู้ค้าสลากฯ เสรี รวมถึงเครือข่ายคนพิการไทย ได้นัดรวมตัวที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อกดดันให้คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ บอร์ดสลากฯ ออกแถลงยกเลิกประกาศรื้อระบบสั่งซื้อและจองล่วงหน้าอย่างเป็นทางการ

หลังจากที่ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หวั่นถูกตัดโอกาสได้โควตาใหม่ใน 200,000 ราย กังวลว่าจะไม่มีโอกาสได้กลับเข้าสู่โควตาใหม่ เพราะมีผู้ต้องการสมัครใหม่จำนวนมากหลักล้านคน ยืนยัน ขอให้คงรายชื่อผู้ค้าสลากฯ รายย่อยเดิมไว้ในระบบ และหากสำนักงานสลากฯ จะออกกฎระเบียบใหม่ ก็ยินดีปฏิบัติตาม และไม่พอใจที่ถูกกล่าวหาว่ากลุ่มผู้ค้าสลากฯ เสรี เป็นต้นเหตุทำให้ราคาสลากฯ แพง เพราะผู้ค้าแต่ละรายมีสลากฯ ในมือเพียงแค่คนละ 5 เล่ม เท่านั้น โดยรัฐควรมีมาตรการออกมาดูแลกลุ่มผู้ค้าสลากฯ ออนไลน์ และยี่ปั๊วรายใหญ่มากกว่า

ด้านพันโทหนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ยืนยันว่า จะยังไม่มีการตัดสิทธิผู้อยู่ในระบบ ซื้อ – จองล่วงหน้าฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการของสำนักงานฯ ในเบื้องต้น จะตรวจสอบผู้ขายสลากฯ ตัวจริง ที่ขายสลากฯ ให้กับผู้บริโภคโดยตรงในราคา 80 บาท และไม่ได้ดำเนินการขายช่วง หรือขายส่งให้ผู้อื่น

โดยหากเป็นผู้ขายจริงก็สามารถดำเนินการลงทะเบียน ชื่อ ที่อยู่ แสดงตนว่าเป็นผู้มีสิทธิซื้อ – จองล่วงหน้า สลากฯ รายเดิม และให้รายละเอียดการขายสลากฯ ในราคา 80 บาท ว่าอยู่สถานที่ใด บริเวณใด โดยสามารถกรอกรายละเอียดได้ตามแบบฟอร์ม ที่สำนักงานสลากฯ จัดทำขึ้นในช่องทางเว็บไซต์สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล www.glo.or.th ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 31 มกราคม 2565

ทั้งนี้ เมื่อสำนักงานฯ ตรวจสอบข้อมูลแล้วว่าถูกต้องสมบูรณ์ตามข้อเท็จจริง ก็ยังคงมีสิทธิในการเป็นผู้ซื้อ – จองล่วงหน้าต่อไป ส่วนกรณีที่จะเปิดให้มีการลงทะเบียน ในระบบซื้อ – จองล่วงหน้าสลากฯ นั้น เพื่อต้องการคัดสรรผู้ขายสลากฯ ตัวจริงเท่านั้น ซึ่งยืนยันว่า จะมีทั้งรายเดิมที่อยู่ในระบบ และรายใหม่ที่ไม่เคยอยู่ในระบบซื้อ – จองล่วงหน้าฯ

เครียด! คลัสเตอร์ผัวเมีย ยอดผู้ป่วยโควิดโอมิครอน เพิ่มเป็น 66 ราย

กระทรวงสาธารณสุขกาฬสินธุ์  เผยยอดผู้ป่วยโควิดจาก คลัสเตอร์ผัวเมีย ขยับเพิ่มเป็น 151 ราย เป็น โอมิครอน 66 ราย นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่า ภาพรวมล่าสุดวันนี้มีผู้ป่วยรายใหม่ 43 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์เชื่อมโยงกับสองสามีภรรยากลับจากต่างประเทศ และร้านอาหารในตลาดโรงสี 27 ราย และคลัสเตอร์งานแสดงดนตรีหาดแสงจันทร์ อ.สหัสขันธ์ ที่เชื่อมโยงกับตลาดโรงสีอีก 8 ราย

นพ.อภิชัย กล่าวอีกว่า ส่วนผู้ติดเชื้อจากงานแสดงดนตรี ต.ภูปอ อ.เมืองกาฬสินธุ์ 3 รายอยู่ระหว่างสอบสวนโรค นอกจากนี้ ยังพบผู้ป่วย ในพื้นที่ อ.กุฉินารายณ์ 1 ราย สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน 3 ราย ใน อ.ยางตลาด อ.นามน อ.เมือง และพบชื้อระหว่างกักตัวใน อ.กมลาไสย 1 ราย

“สำหรับยอดผู้ป่วยที่เชื่อมโยงกับสองสามีภรรยาที่ไปใช้บริการร้านอาหารกึ่งผับในตลาดโรงสีจนกลายเป็นคลัสเตอร์ใหญ่นั้น ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์นี้แล้วรวม 151 ราย โดยจำนวนผู้ป่วยตั้งแต่มีการตรวจพบเชื้อเริ่มแรกจากสามีภรรยาในวันที่ 17-25 ธ.ค.64 รวมจำนวน 66 รายนั้น

ผลการตรวจสายพันธุ์ล่าสุดยืนยันแล้วว่าเป็นโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ส่วนจำนวนผู้ป่วยที่ตรวจพบเชื่อมโยงกันและมียอดในวันที่ 26-27 ธ.ค.2564 รวมจำนวน 85 ราย ยังอยู่ระหว่างการตรวจยืนยันสายพันธุ์อย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าส่วนใหญ่จะเป็นโอมิครอนเกือบทั้งหมด” นพ.อภิชัย กล่าว

ลมหนาวมาแล้ว กรมอุตุพยากรณ์อากาศ 9 พ.ย. ภาคอีสาน อุณหภูมิลดสูงสุด 3-5 องศา ภาคที่เหลือเกิดฝนฟ้าคะนอง วันนี้ 8 พ.ย. 64 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยแล้ว คาดว่าจะแผ่เข้าปกคลุมภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในวันพรุ่งนี้ (9 พ.ย. 64)

กรมทางหลวง ได้จัดส่งทีมวิศวกรสำนักอำนวยความปลอดภัย สำนักสำรวจและออกแบบ จากส่วนกลาง ลงพื้นที่ร่วมกับทีมเจ้าหน้าที่จาก สำนักงานทางหลวงที่ 11 (ลพบุรี) และแขวงทางหลวงนครสวรรค์ที่ 1 เพื่อวิเคราะห์สาเหตุ และพิจารณาแนวทางการแก้ไข โดยการปิดช่องเปิดนี้อย่างถาวร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้อีก ทั้งนี้จะได้ประชุมหารือกับชาวบ้าน ท้องถิ่น และจังหวัดนครสวรรค์ ให้ได้ข้อยุติโดยเร็วต่อไป